ภาพรวมในธนาคารหมู่บ้านตามแนวพระราชดำริบ้านคลองมะงั่ว
ธนาคารหมู่บ้านคลองมะงั่ว หมู่บ้านที่ 10 ตำบลชากบก อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง เป็นธนาคารตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ได้ก่อตั้งขึ้นเพื่อให้ประชาชนได้ฝึกการออมทรัพย์ การประกอบอาชีพ และช่วยเหลือสงเคราะห์กันระหว่างสมาชิกด้วยกัน ในชุมชนหรือหมู่บ้านและเป็นการฝึกการบริหารการเงินให้กับคนในชุมชนและหมู่บ้าน ให้มีความมั่นคงทางด้านเศรษฐกิจ และสร้างนิสัยการออม
ธนาคารหมู่บ้านตามแนวพระราชดำริบ้านคลองมะงั่วนั้น ไม่มีหลักค้ำประกันความมั่นคง มีแต่อาศัยความซื่อสัตย์สุจริตและความมีคุณธรรมของคณะกรรมการและสมาชิกเท่านั้น ดังนั้นธนาคารอยู่ได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับสมาชิกร่วมกันบริหาร และดูแล
ธนาคารหมู่บ้านตามแนวพระราชดำริบ้านคลองมะงั่ว ก่อตั้งขึ้นเมื่อ วันที่ 9 มีนาคม พ.ศ.2546 โดยการนำเข้ามาของ นักศึกษา กศ.อช.รุ่นที่ 22 สถาบันราชภัฏรำไพพรรณี จังหวัดจันทบุรี กลุ่มอำเภอบ้านค่าย โปรแกรมวิชาการพัฒนาชุมชน สาขา ศิลปศาสตร์บัณฑิต ซึ่งอยู่ในช่วงเวลาการฝึกประสบการณ์ของนักศึกษา ในภาคเรียนที่ 3 ปีการศึกษา 2546 นักศึกษาเหล่านี้เป็นนักศึกษาที่เรียนหลักสูตรพิเศษที่ทางสถาบันราชภัฏ ร่วมกับ กรมการปกครอง การศึกษานอกโรงเรียน ได้ร่วมมือกันเปิดขึ้น โดยนำเอาแบบอย่างจากธนาคารหมู่บ้านตามแนวพระราชดำริบ้านบึงต้นชัน ประกอบด้วย รายนามนักศึกษา ดังนี้
1. นายอภิรัฐ เรืองฤทธิ์ รองผู้บัญชาการเรือนจำ สมัยนั้น
2. นายธนะรัฐ สุขเกิด อดีตผู้ใหญ่บ้าน ตำบลบางบุตร
3. นายวุฒิกร เรืองฤทธิ์ รองนายก องค์การบริหารส่วนตำบลตาขัน
4. นายชัชวาลย์ สดภิบาล รองนายก องค์การบริหารส่วนตำบลหนองบัว
5. นายชัยพร วิชัย พนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลตาขัน
6. จ่าเอกสามารถ มีบุญสบาย ข้าราชการทหารเรือสังกัด หมวดสุนัขทหาร
7. จ่าเอกสงคราม ประจง ข้าราชการทหารเรือสังกัดหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและ
รักษาฝั่ง กองทัพเรือ
รักษาฝั่ง กองทัพเรือ
ทั้งนี้ ผู้ใหญ่บ้านโดยนายวิหาร ศรีสุขโข และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านนายสงเคราะห์ ประจง พร้อมด้วย สมาชิก อบต. ผู้นำหมู่บ้านของหมู่ที่ 10 ได้ให้การสนับสนุนสถานที่ รวมถึง เครือข่ายธนาคารหมู่บ้านตามแนวพระราชดำริบ้านบึงต้นชันให้การสนับสนุนด้านวิชาการและเป็นที่ปรึกษ ในวันที่เปิดธนาคาร ได้เชิญนายอำเภอบ้านค่าย นายทวีวัฒน์ เจริญพงษ์ มาเป็นประธานในการเปิด พร้อมด้วยประชาชนและเพื่อนนักศึกษา กศ.อช.ก็มาร่วมด้วย เป็นจำนวนมาก
นายสุวรรณ นางสำเนียง ปานกลาง
สองท่านนี้เป็นผู้มีจิตเป็นกุศลบริจาคที่ดิน ให้เป็นที่สาธารณะ สมัยที่ยังเป็นศาลากลางหมู่บ้าน ที่มีไว้ทำบุญประเพณีสวดมนต์กลางทุ่งปีละหนึ่งครั้ง ต่อมาถูกพัฒนามาเป็นที่ทำการธนาคารฯ
นายสุนิรันดร์ เพิ่มพลัง
ประธานคณะกรรมการธนาคารฯ
ประธานคณะกรรมการธนาคารฯ
จ่าเอกสงคราม ประจง
อดีตเคยรับราชการทหารเรือ
สังกัดหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง
หนึ่งผู้ร่วมก่อตั้งที่เป็นกำลังหลักของธนาคารในปัจจุบัน
อดีตเคยรับราชการทหารเรือ
สังกัดหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง
หนึ่งผู้ร่วมก่อตั้งที่เป็นกำลังหลักของธนาคารในปัจจุบัน
" ความตั้งอยู่ได้ของธนาคารอยู่ที่ความซื่อสัตย์สุจริตของสมาชิกและคณะกรรมการบริหาร ไม่มีหลักใด มาค้ำประกันทั้งนั้น เกิดจากชุมชน ชุมชนต้องดูแล ไม่อย่างนั้นไม่มีทางมั่นคงได้ลูกหลานก็ไม่ได้เห็นและได้ใช้อีกเลย"
กิจกรรมประจำเดือน
ปีที่ 1ถึงปีที่ 11 ธนาคารฯ เปิดให้สมาชิกได้ใช้บริการ เฉพาะวันอาทิตย์แรกของเดือน ต่อมาเมื่อย่างเข้าปีที่ 12 ได้เปิดทำการ ในวันอาทิตย์สัปดาห์ที่ 3 ของเดือน อีกหนึ่งวัน เพื่อให้สมาชิกได้มีโอกาสออมเงินเพิ่มขึ้นและระบายความแออัดของสมาชิกที่ต้องมาใช้บริการวันเดียว โดยมีกิจกรรม
เปิดรับสมาชิกใหม่ , รับสวัสดิการ , ถือหุ้น, ชำระหนี้, กู้เงิน ,สงเคราะห์ศพ
ตั้งแต่เวลา ๐๘.๐๐ น.- ๑๒.๐๐ น.
หลังจากนั้นคณะกรรมการจะพิจารณาเงินกู้และจัดทำบัญชีต่าง ๆ
คณะกรรมการบริหาร จำนวน ๒๒ คน มีนายสุนิรันดร์ เพิ่มพลัง เป็นประธาน
มีการประชุมคณะกรรมการทุุุกเดือน เพื่อปรับปรุงแก้ไขงานและปัญหา รวมถึงแนวทางการพัฒนา
ส่งคณะกรรมการเข้ารับการอบรมบัญชี ที่ ธนาคารหมู่บ้านตามแนวพระราชดำริบ้านคลองป่าไม้
ต.กระแสบน อ.แกลง จ.ระยอง
การเข้าเป็นสมาชิก
สมาชิกใหม่ ต้องเป็นผู้ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านหมู่ที่ ๑๐ ต.ชากบก อ.บ้านค่าย จังหวัดระยอง หรือหมู่บ้านใกล้เคียงที่กำหนดไว้ในระเบียบเท่านั้น มีสองประเภท สมาชิกกิตติมศักดิ์ และสมาชิกสามัญ ทั้งเยาวชนและคนทั่วไป
การถือหุ้น กำหนดไว้หุ้นละ ๑๐ ให้ถือได้ไม่เกิน ๕๐๐หุ้นต่อครั้ง
การกู้เงิน กำหนดให้กู้ไม่เกิน ๓ เท่าของเงินหุ้นที่มีอยู่ ณ ปัจจุบัน แต่ไม่เกิน ๖๐๐๐๐ บาท
ต้องมีสมาชิกค้ำประกันจำนวน ๒ คน โดยให้จับกันเป็นกลุ่ม ๆ ละ ๓ คนผลัดกันค้ำและกู้ โดยยื่นเรื่องกู้ในสัปดาห์ที่ ๓ และพิจาณาเงินกู้ให้สมาชิกได้รับสัปดาห์ที่ ๑ ถ้าเป็นเยาวชนยังเรียนอยู่ไม่ให้กู้ แต่สามารถเบิกไปใช้ได้
การชำระเงินคืน กำหนดให้ชำระทั้งต้นและดอกเบี้ยโดย เป็นรายเดือน แบบลดต้นลดดอก ยอดชำระขั้นต่ำ ๕๐๐บาท (กู้ไม่เกิน ๑๐๐๐๐ บาท) และ ๑๐๐๐ บาท(กรณีกู้เกิน ๑๐๐๐๐ บาท) โดยการคิดดอกเบี้ยร้อยละ ๒ บาท ต่อเดือน
การคิดเงินปันผล กำหนดให้ ๑ ปี ต้องปิดงบดุลและคิดเงินปันผลให้กับสมาชิก ร้อยละ ๑ บาท /เดือน
การจัดสวัสดิการ
สมาชิกคลอดบุตร ธนาคารจะเปิดบัญชีทำขวัญให้ ๑๐๐๐ บาท แก่บุตรของสมาชิก
อัตราการจ่ายเงินสวัสดิการกรณีเจ็บป่วยนอนโรงพยาบาลจ่าย ๕ คืนต่อปี และการเสียชีวิต | |||
จำนวนหุ้น | เจ็บป่วยนอนโรงพยาบาล/คืน/ปี | การเสียชีวิต/ศพ | พวงหรีด |
100-20,000 | 200 | 2,000 | 300 |
20,010-30,000 | 250 | 2,500 | 300 |
30,010-40,000 | 300 | 3,000 | 300 |
40,010-50,000 | 350 | 3,500 | 300 |
50,010-60,000 | 400 | 4,000 | 300 |
60,010-70,000 | 500 | 5,000 | 300 |
70,010-80,000 | 600 | 6,000 | 300 |
80,010-90,000 | 700 | 7,000 | 300 |
90,010-100,000 | 900 | 8,000 | 300 |
100,010 ขึ้นไป | 1,000 | 10,000 | 300 |
กิจกรรมอื่น ๆ
๑ โครงการฝึกอาชีพให้กับสมาชิก
๒ โครงการบานไม่รู้โรย (สำหรับผู้สูงอายุ)
๓ ประชุมใหญ่สามัญประจำปี
๔ การสนับสนุนชุมชนในด้านต่าง ๆ เช่น วัด ศาลาหมู่บ้าน กีฬา สมาชิกผู้เดือดร้อนจากภัยธรรมชาติ
เป็นต้น
ฝึกอาชีพติดตายาง
บานไม่รู้โรย
ประชุมใหญ่สามัญประจำปี หน้าธนาคารหมู่บ้าน
จัดประชุมใหญ่ปี 2556 หน้าร้าน พสก.
ผลการดำเนินการ จากการเริ่มต้น มีหุ้นสมาชิก จำนวน ๑๑๗๐๐ บาท และมีสมาชิก ๗๐ คน ปัจจุบัน มีสมาชิก 868 ตามรายชื่อ ส่วนยอดสุทธิ 668 คน
ผลสำฤทธิ์ การดำเนินการด้วยระบบสวัสดิการ ทำให้มีการรักษาวินัยการชำระหนี้ของสมาชิก และไม่ทำหนี้สูญ
นอกจากนี้ธนาคารยังจะดำเนินกิจกรรมในด้าน ก่อสร้างกิจการต่าง ๆ อีกในอนาคต เช่น กิจการ กิจการ ร้านค้า อันจะนำมาซึ่งรายได้ และนำดอกผลรายได้ต่าง ๆ ไปพัฒนาชุมชนของตนเองให้ดีขึ้น สมาชิกมีความสุข มีแหล่งทุนให้กู้ประกอบอาชีพ มีเงินปันผล มีเงินออมไว้ใช้ยามลำบากขัดสน สุดท้ายเงินปันผลคือเงินบำนาญของสมาชิกเอง
ในปี 2555 คณะกรรมการบริหารได้พิจารณาลงความเห็นเป็นมติ ให้ก่อสร้าง กิจการร้านค้าขนาดกลางขึ้น ณ หมู่บ้านที่ 4 ตำบลชากบก อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง พื้นที่ครอบคลุมสมาชิกถึง 3 หมู่บ้าน เพื่อเป็นสวัสดิการให้กับสมาชิก และเป็นการขยายกิจการของธนาคาร เพื่อความมั่นคงทางด้านเศรษฐกิจ ตามแผนงานที่วางไว้ คาดว่าจะก่อตั้งแล้วเสร็จภายใน เมษายน 2556 เงินลงทุน ประมาณ 4,000,000 บาท คิดว่าจะมีกำไรสุทธิ ปีละ 3-5 ล้านบาทเลยทีเดียว และจะมีสมาชิกหมุนเวียนใช้บริการถึง เดือนละ 2 -3 พันคน ต่อเดือน
กำไรสุทธิจะนำไปจัดสรร ให้กับสมาชิกเรียกว่าเงินปันผล และส่วนทีเหลือจะนำไปพัฒนาหมู่บ้าน ด้านความมั่นคง ด้านเศรษฐกิจ ด้านสาธารณสุข ด้านวัฒนธรรม ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านอาชีพ ด้านการศึกษา ด้านสังคม ที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน เป็นกำไรสะสม ในการลงทุนกิจการอื่น ๆ และ ป้องกันความเสี่ยงของธนาคารด้วย
หากกลุ่มองค์กรใดที่ต้องการจะศึกษาดูงานด้านนี้ ก็ยินดีรับใช้ โดยจะรับในวันที่ธนาคารเปิดทำการเท่านั้น วันอื่น ๆ ไม่รับ เพราะจะไม่ีมีอะไรให้ดูและสัมผัส โทร ๐๘๖๑๑๐๘๑๖๗
ความคิดเห็น